เทคนิคเปลี่ยนคุณให้เป็นคนไม่ผัดวันประกันพรุ่งและลงมือทำทันที

1 min read5 years ago

เล่าหนังสือ

เทคนิคเปลี่ยนคุณให้เป็นคนไม่ผัดวันประกันพรุ่งและลงมือทำทันที-cover-image

เมื่อวันก่อนไปเดินเล่นร้านหนังสือ เจอหนังสือเล่มหนึ่งตั้งอยู่บนชั้นหนังสือยอดนิยมชื่อว่า "เทคนิคเปลี่ยนคุณให้เป็นคนไม่ผัดวันประกันพรุ่งและลงมือทำทันที" นี่แค่เห็นหน้าปกก็คิดละว่า เฮ้ย! หนังสือเล่มนี้มันเขียนมาให้เราอ่านแน่ๆ 555 ก็ไม่ลังเลรีบคว้าไปจ่ายตังขนาดที่ว่ายังไม่ได้เปิดอ่านสักหน้ากันเลยทีเดียว วันนี้อ่านจบรอบสอง ก็เลยสรุปเก็บไว้หน่อย

เนื้อหาภายในหนังสือเนี่ย จะรวบรวม 55 วิธี ที่จะช่วยให้เรากลายเป็นคนที่ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง ซึ่งหลายๆวิธีก็ถือว่าน่าสนใจนะ ส่วนใหญ่จะเป็นวิธีง่ายๆ บางครั้งเราอาจจะรู้อยู่แล้ว แค่ไม่ทำ หรือบางวิธีก็เป็นวิธีง่ายๆที่เปลี่ยนมุมมองเราได้เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น

  • บางครั้งการลงมือทำทันทีไม่ได้ เกิดจากการคิดรวบยอด เช่น คิดว่าจะทำงานบ้าน แต่พอถึงเวลาลงมือทำจริงๆก็ไปไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน เพราะจริงๆแล้วการคิดรวบยอดว่าทำงานบ้าน อาจจะกว้างเกินไป ควรย่อยงานให้เล็กพอที่จะลงมือทำได้ทันที เช่น เปลี่ยนคำว่าทำงานบ้านเป็น เก็บใบเสร็จ, ล้างห้องน้ำ แทน ให้เล็กพอที่จะลงมือทำได้ทันที
  • ก่อนจะลงมือทำทันที ให้ทิ้งความสบายที่อยู่ตรงหน้าก่อน เช่น ถ้าตอนนี้นั่งดูทีวีอยู่ แล้วนึกได้ว่าต้องลุกไปทำงาน บางครั้งการคิดว่าต้องปิดทีวีแล้วไปทำงานมันตัดกำลังใจเกินไป ให้ทิ้งความสบายตรงหน้าก่อน คือ ให้ปิดทีวีให้ได้ก่อน เมื่อทิ้งความสบายที่อยู่ตรงหน้าได้ การลุกไปทำงานก็จะทำได้ง่ายขึ้นแล้ว
  • บางครั้งการผัดวันประกันพรุ่ง เกิดจากการขาดการเตรียมตัว เช่น ทำไมเราถึงแปรงฟันได้ทันที ก็เพราะเรามีแปรงและยาสีฟันเตรียมไว้แล้ว ดังนั้นหากเราจะวิ่ง ก็ควรจะเตรียมตัวไว้ เช่น เตรียมเสื้อผ้ารองเท้าให้เรียบร้อย หรือถ้าจะต้องเขียนอะไรสักอย่าง ก็ให้เตรียมปากกากับกระดาษให้เรียบร้อยเลย จะได้ลงมือทำได้ทันที

นอกจากหนังสือจะมีคำแนะนำเกี่ยวกับการเปลี่ยนให้เราไม่ผัดวันประกันพรุ่งแล้ว ก็ยังเตือนว่าบางครั้งการลงมือทำทันทีก็อาจส่งผลเสียได้เหมือนกัน เช่น

  • บางครั้งการลงมือทำทันทีโดยไม่วางแผน ก็อาจจะเปลี่ยนให้เรากลายเป็นแค่ คนที่ทำงานอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่ได้งานก็ได้ เช่น ลงมือทำทันที แต่ดันไปทำงานที่ไม่สำคัญ ดังนั้น การจัดลำดับความสำคัญถือว่าจำเป็นมากๆสำหรับปัญหานี้

สรุปแล้ว ใจความสำคัญหลักๆของเล่มนี้ จะเน้นให้เรา แบ่งงานใหญ่ๆ ออกเป็นง่านย่อยๆ, จัดลำดับความสำคัญของงาน, เตรียมตัว เพื่อให้เวลาที่เราคิดจะทำอะไรแล้ว สามารถลงมือทำได้ทันที จริงๆแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องพื้นฐาน ซึ่งผมอาจจะมองข้ามหรือปล่อยปะละเลยไป แต่อย่างน้อยพออ่านแล้วก็แอบสะกิดต่อมขี้เกียจได้พอสมควรเลย

. . .